• แนวทางการใช้งาน
  • โครงสร้างของ Skipper Script
  • Comment
  • ตัวแปร และชนิดของตัวแปร
  • Operators
  • Statements
  • ตัวอย่าง Skipper Script

พื้นฐานในการเขียนโปรแกรมทุกภาษา จะเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของตัวแปร สำหรับ Skipper เรามีตัวแปรให้ใช้อยู่ 3 ประเภท คือ String, Int และ Boolean ดังรายละเอียดต่อไปนี้

String

คือตัวแปรที่บรรจุข้อความเอาไว้ ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษร และตัวเลข (ในรูปของตัวอักษร) ข้อสังเกตคือ ค่าของตัวแปรแบบนี้จะถูกปิดหัวท้ายด้วยเครื่องหมายฟันหนู เช่น "ABC" จะหมายถึงค่า ABC (ไม่มีเครื่องหมายฟันหนู) เป็นต้น ตัวแปรแบบ String นี้ ถึงแม้ว่าจะบรรจุตัวอักษรที่เป็นตัวเลข ก็ไม่สามารถนำไปใช้คำนวนในเชิงคณิตศาสตร์ได้ เมื่อนำเอาตัวแปรประเภท String มาบวกกัน (ด้วยเครื่องหมายบวก) ผลลัพท์ที่จะได้จะเป็นการเชื่อมต่อ String สองตัวเข้าด้วยกัน เช่น

a = "Skipper is "
b = "the great bot"

a+b จะมีค่าเท่ากับ "Skipper is the greate bot"

รายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวนค่าเหล่านี้ โปรดดูได้ที่หัวข้อ Operators

Int (Integer)

คือตัวแปรที่บรรจุค่าตัวเลขเอาไว้ สามารถนำมาทำการคำนวนทางคณิตศาสตร์ตามปกติได้ เช่น

a = 1
b = 2
a+b จะมีค่าเท่ากับ 3

รายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวนค่าเหล่านี้ โปรดดูได้ที่หัวข้อ Operators

Boolean

คือตัวแปรที่บรรจุค่าซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ จริง (True) และเท็จ (False) ซึ่งมีประโยชน์มากในการตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ ภายในสคริปต์ โดยทั่วไป เราจะใช้ค่า false แทนค่าเท็จ และ true แทนค่าจริง เช่น

a = true
b = false
a and b จะมีค่าเป็น false

รายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวนค่าเหล่านี้ โปรดดูได้ที่หัวข้อ Operators

การตั้งชื่อตัวแปร

การตั้งชื่อตัวแปรใน Skipper Script สามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ขอแนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อให้สคริปต์ที่ได้อ่านได้ง่าย การตั้งชื่อตัวแปรจะต้องยึดหลักต่อไปนี้

• สามารถใช้ทั้งตัวพิมพ์ใหญ่ และตัวพิมพ์เล็ก ตัวเลข และเครื่องหมาย underscore (_) ผสมกัน โดยจะต้องขึ้นด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ หรือเล็กเสมอ
• ต้องไม่มีเว้นวรรคคั่นกลาง
• ไม่สามารถใช้ตัวแปรที่ขึ้นต้นด้วยตัวเลขได้

Global Variables VS. Local Variables

การใช้ตัวแปรใน Skipper Scrip จะมีขอบเขตแตกต่างกันตามตำแหน่งของการใช้ตัวแปรตัวนั้นๆ เป็นครั้งแรก ตัวแปรที่มีการกำหนดค่าไว้ในส่วน .var (ดู โครงสร้างของ Skipper Script)จะมีขอบเขตการใช้งานครอบคลุมทั้งสคริปต์ คือ สามารถเรียกใช้เมื่อใดก็ได้ภายในสคริปต์นั้น และการเปลี่ยนค่าตัวแปรนั้นๆ จะมีผลทั่วถึงกันทั้งหมด ตัวแปรแบบนี้เรียกว่าตัวแปรแบ Global

ตัวแปรที่ถูกกำหนดค่าครั้งแรกภายใน Event ใดๆ จะถูกเรียกใช้ได้จากภายใน Event นั้นๆ เท่านั้น ตัวแปรลักษณะนี้เรียกว่า ตัวแปรแบบ Local ถ้าหากมีการตั้งชื่อตัวแปรแบบ Local ซ้ำกับตัวแปรแบบ Global เมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงค่า จะมีผลต่อตัวแปร Global เสมอ การตั้งชื่อตัวแปรจึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ